ตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 มาตรา 55 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า ที่ดินที่ว่างเปล่าหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพ มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินรกร้าง
ที่ดินที่ว่างเปล่า หมายถึง ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพ โดยที่ดินที่ว่างเปล่าจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
- ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพ
- ที่ดินที่ไม่ได้ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ หรือก่อสร้างอาคาร
- ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการค้าหรืออุตสาหกรรม
- ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการสาธารณูปโภค
ที่ดินที่ว่างเปล่า มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินรกร้าง โดยอัตราภาษีจะแตกต่างกันไปตามมูลค่าของที่ดิน โดยในปี 2566 อัตราภาษีที่ดินรกร้าง มีดังนี้
- 0-50 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 0.3%
- 50-200 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 0.4%
- 200-1,000 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 0.5%
นอกจากนี้ หากปล่อยที่ดินรกร้างว่างเปล่าติดต่อกัน 3 ปี อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น 0.3% ทุกๆ 3 ปี แต่โดยรวมทั้งหมดแล้วจะเก็บภาษีได้ไม่เกิน 3%
การเสียภาษีที่ดินรกร้าง สามารถทำได้ดังนี้
- ชำระภาษีผ่านธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ชำระภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เว็บไซต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแอปพลิเคชัน
กำหนดเวลาในการชำระภาษีที่ดินรกร้าง ดังนี้
- ที่ดินที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ชำระภาษีภายในวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี
- ที่ดินที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ชำระภาษีภายในวันที่ 31 สิงหาคมของทุกปี
หากไม่ชำระภาษีที่ดินรกร้าง ภายในกำหนดเวลา จะถูกปรับไม่เกิน 5% ของภาษีที่ต้องชำระ โดยต้องชำระภาษีและค่าปรับภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การหลีกเลี่ยงภาษีที่ดินรกร้างอาจถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้