บ้านกำลังจะถูกยึดขายทอดตลาด

แก้ไขล่าสุด วันที่ 17th August, 2023 at 09:26 pm

“บ้านกำลังจะถูกยึด ทำไงดี ?”

ปัญหาที่ระอุขึ้นมาหนักหน่วงและต่อเนื่องในช่วงนี้

คือการขาดสภาพคล่องของลูกหนี้

โดยเฉพาะหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องจ่ายทุกเดือน เช่น บ้าน-รถ

บางรายขาดส่งเกิน 3 เดือนไปแล้ว และกำลังจะถูกยึด !

ขอข้ามขั้นตอนการเจรจาก่อนฟ้องไปเลยนะครับ

เพราะเล่าไปหลายรอบแล้ว รวมถึงช่องทางช่วยเหลือ

วาร์ปไปขั้นที่ “บ้าน” ที่ถูกกรมบังคับคดีสั่ง “ยึดทรัพย์” กันเลย

ซึ่งน่าจะผ่านขั้นตอนหมายศาลเรียกเจรจากับเจ้าหนี้ไปแล้ว

แต่ไม่ได้ไปตามนัด หรือ ไปเจรจา แต่ก็ผิดนัดชำระอยู่ดี

ซึ่งสุดท้ายเจ้าหนี้ก็ต้องขออนุญาตกรมบังคับคดี

สั่ง “ยึดทรัพย์” และ “ขายทอดตลาด” เพื่อนำเงินมาใช้หนี้

เอาล่ะ นี่คือสิ่งที่ลูกหนี้ต้องเจอและต้องทำ


1. กรมบังคับคดีจะมีใบปิดประกาศ สั่งยึดทรัพย์-ขายทอดตลาด

เมื่อเราได้รับหมายนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากตกใจ คือ…

อ่านรายละเอียดของหมายให้ชัดเจน เช่น…

ชื่อ, โฉนดที่ดินที่จะมายึด, ราคาประเมิน และ หมายจากสำนักงานไหน

หากไม่ตรงหรือไม่ถูกต้อง ให้รีบไปยื่นเรื่องคัดค้านภายใน 7 วัน

เช่นเดียวกับราคาประเมิน หากต่ำเกินจริง ก็ยื่นคัดค้านได้ เช่น…

ซื้อบ้านมา 1 ล้านบาท ราคาประเมินในหมายแค่ 5 แสนบาท

ก็ให้รีบไปคัดค้าน เพื่อพิจารณาใหม่ (นำหลักฐานไปให้ครบ)

2. เรายังมีสิทธิเจรจากับเจ้าหนี้ได้อีกครั้ง

แม้จะยากกว่าเดิม เพราะเลยเถิดมาถึงขั้นบังคับยึดทรัพย์แล้ว

ซึ่งภาวะปกติ แทบจะเจรจาไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ดีขึ้นหน่อย

เพราะมีแบงก์ชาติคอยช่วยอยู่ รีบติดต่อ โครงการต่าง ๆ เลย

เช่น ทางด่วนแก้หนี้, โครงการไกล่เกลี่ยหนี้ และ คลินิกแก้หนี้

อาจมีคำถามว่า “โครงการเหล่านี้ช่วยแค่เฉพาะ…

หนี้บัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล-เช่าซื้อ ไม่ใช่หรอ”

แต่ลองก่อนก็ไม่เสียหายครับ เพราะมีหัวข้อหนี้อื่น ๆ ด้วย

3. ก่อนเจรจาให้สำรวจความสามารถตัวเองก่อน

หากระยะถัดไปไม่มีกำลังผ่อนต่อแล้ว

และราคาประเมินใกล้เคียงกับมูลหนี้คงค้าง

ปล่อยยึดไปก็คงจะดีกว่า ลดภาระยะยาว

ไม่ควรยึดติด ว่าอุตส่าห์ผ่อนมาตั้งนาน

ยื้อไปก็เป็นภาระ ไม่ตายก็หาใหม่ได้

บ้านคือที่อยู่อาศัย ดังนั้นเช่าอาศัย ก็อยู่ได้เหมือนกัน



หรือหากยังมีกำลังผ่อนต่อ ต้องขอเจรจาให้ถึงที่สุด

พร้อมด้วยหลักฐานและเหตุผลที่น่าเชื่อถือ

งวดที่ขาดส่งอาจจะต้องจ่ายทั้งหมดพร้อมเบี้ยปรับ

ก็ต้องหาเงินมาโปะให้เจ้าหนี้

เพื่อเพิ่มความรู้สึกเชิงบวกต่อเจ้าหนี้



โดยขั้นตอนเหล่านี้เรามีเวลาราว 3 เดือน

ก่อนจะประกาศขายทรัพย์ทอดตลาด

4.หากเจ้าหนี้ไม่ยอมเจรจา และ เลิกไว้ใจเราแล้ว

มี 2 กรณีมาแนะนำ คือ …

4.1.อยากขายได้ราคาที่สูงกว่า “ทอดตลาด”

เพราะขาย “ทอดตลาด” จะขายเร็ว มากกว่าขายคุ้ม

ดังนั้นเราต้องรีบหาคนซื้อบ้าน จะวิธีไหนก็แล้วแต่

ลด แลก แจก แถม เพื่อให้เราได้ประโยชน์กว่า “ขายทอดตลาด”

เมื่อหาผู้ซื้อได้แล้ว ไปเจรจาพร้อมสัญญาจะซื้อจะขาย

บอกว่ากำลังขายบ้านแล้ว และจะปิดหนี้หลังขายเสร็จ

4.2.อยากเก็บบ้านไว้

วิธีนี้ต้องหาญาติ พี่น้อง หรือคนสนิท มาซื้อบ้านต่อ

โดยนำสัญญาจะซื้อจะขาย ไปเจรจาเช่นเคย

ซึ่งมีข้อแนะนำ 2 แบบในการจะขายต่อให้กลุ่มนี้

4.2.1.ขายแบบตรง ๆ นั่นแหล่ะ

4.2.2.ให้คนกลุ่มนี้ไปซื้อตอน “ขายทอดตลาด”

เพราะจะได้ราคาต่ำ (ราคาประเมินของกรมบังคับคดี)

โดยเข้าร่วมประมูล (มีมัดจำและค่าธรรมเนียมเข้าร่วม)

จุดนี้ดีอย่าง คือ หลังประมูลได้ สามารถขอพักชำระได้ 3 เดือน

คือ พอประมูลเสร็จ ร้องขอพักชำระ เพื่อเตรียมเงินมาซื้อได้

จะไปกู้แบงก์ หรือ ขายสินทรัพย์อื่น อะไรก็ได้

โดยนำหลักฐานไปยื่นขอหลังประมูลทรัพย์ได้

แต่…


ตอนประมูล “ขายทอดตลาด” อาจจะไม่ง่ายนัก

หากทำเลบ้านเรา เป็นที่สนใจของผู้ซื้อรายอื่น

นอกจากประมูลแข่ง ก็ต้องไปคุกเข่าขอร้อง

ผู้ประมูลรายอื่น ว่าขอเถอะ บ้านนี้เลี้ยงผีไว้ ไรก็ว่าไป …

แต่คู่แข่งจะยอมหรือไม่ ไม่มีใครรับประกัน

source: Lumpsum

Share on: