มรดกของแม่ที่เสียชีวิตนั้น จะตกเป็นของทายาทโดยธรรม ตามลำดับที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
- ผู้สืบสันดาน คือ ลูก หลาน เหลน ลื้อ
- คู่สมรส
- บิดามารดา
- พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
- ปู่ย่าตายาย
- ลุงป้าน้าอา
หากผู้สืบสันดานลำดับที่ 1 หรือ 2 มีชีวิตอยู่ คู่สมรสจะไม่มีสิทธิรับมรดก
หากผู้สืบสันดานลำดับที่ 1 หรือ 2 ถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดกตาย ให้ผู้สืบสันดานของทายาทนั้นรับมรดกแทนที่
หากผู้สืบสันดานลำดับที่ 3 ถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดกตาย คู่สมรสจะรับมรดกครึ่งหนึ่ง และให้ผู้สืบสันดานของทายาทนั้นรับมรดกแทนที่
หากผู้สืบสันดานลำดับที่ 4 ถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดกตาย คู่สมรสจะรับมรดกครึ่งหนึ่ง
หากผู้สืบสันดานลำดับที่ 5 ถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดกตาย คู่สมรสจะรับมรดกครึ่งหนึ่ง
หากผู้สืบสันดานลำดับที่ 6 ถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดกตาย คู่สมรสจะรับมรดกครึ่งหนึ่ง
กรณีที่แม่มีพินัยกรรม มรดกจะเป็นไปตามที่ระบุในพินัยกรรม เว้นแต่พินัยกรรมนั้นจะเป็นโมฆะหรือตกเป็นโมฆียะ
หากแม่ไม่มีพินัยกรรม ทายาทจะต้องดำเนินการขอรับมรดกจากศาล โดยต้องนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หนังสือรับรองการตาย หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เป็นต้น ไปยื่นคำร้องต่อศาล
หลังจากศาลมีคำสั่งให้รับมรดกแล้ว ทายาทจะต้องดำเนินการจดทะเบียนรับมรดกที่สำนักงานที่ดิน โดยนำคำสั่งศาลและเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปยื่น
ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับผู้ที่จะได้รับมรดกของแม่ที่เสียชีวิต
- ควรตรวจสอบว่าแม่มีพินัยกรรมหรือไม่
- ควรปรึกษาทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย
- ควรเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้พร้อม
หากต้องการขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับมรดก สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานที่ดินหรือสำนักงานเขต/อำเภอทั่วประเทศ