อาการเจ็บส้นเท้า เจ็บทุกครั้งเวลาเดิน อาจเป็นอาการของโรครองช้ำ (Plantar fasciitis) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า ส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณที่พังผืดยึดกับกระดูกส้นเท้า ผู้ป่วยมักมีการเจ็บปวดบริเวณส้นเท้าเวลาลงน้ำหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรก ๆ ของการลงน้ำหนัก เช่น ตื่นนอนตอนเช้า หรือหลังจากการนั่งนาน ๆ เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ อาการปวดจะดีขึ้น
สาเหตุของโรครองช้ำอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
- การยืนหรือเดินเป็นเวลานาน
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
- การสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม
- การบาดเจ็บที่เท้า
- การเปลี่ยนแปลงกิจกรรม เช่น การเริ่มออกกำลังกายอย่างหนัก
การรักษาโรครองช้ำอาจทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น
- การพักผ่อนและหลีกเลี่ยงการเดินหรือยืนเป็นเวลานาน
- การประคบเย็นหรือความร้อน
- การใช้ยาแก้ปวดหรือยาต้านการอักเสบ
- การกายภาพบำบัด
- การผ่าตัด (ในกรณีที่อาการรุนแรง)
หากมีอาการเจ็บส้นเท้า เจ็บทุกครั้งเวลาเดิน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
นอกจากโรครองช้ำแล้ว อาการเจ็บส้นเท้าอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก เช่น
- กระดูกส้นเท้าแตกหรือหัก
- โรคข้ออักเสบ
- โรคติดเชื้อ
- โรคเนื้อร้ายในเท้า
หากมีอาการเจ็บส้นเท้าร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น บวม แดง มีไข้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
การดูแลตนเองเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บส้นเท้า ได้แก่
- พักผ่อนและหลีกเลี่ยงการเดินหรือยืนเป็นเวลานาน
- ประคบเย็นบริเวณส้นเท้านาน 20 นาที 3-4 ครั้งต่อวัน
- รับประทานยาแก้ปวดหรือยาต้านการอักเสบตามคำแนะนำของแพทย์
- สวมใส่รองเท้าที่รองรับเท้าได้ดี
- ออกกำลังกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อขาและเท้าเป็นประจำ
หากอาการเจ็บส้นเท้าไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม