โฉนดที่ดินติดค้ำประกันเข้าทำงาน

การที่ผู้สมัครงานนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกันกับนายจ้างเพื่อเป็นหลักประกันในการทำงาน โดยหากผู้สมัครงานฝ่าฝืนเงื่อนไขการทำงาน นายจ้างมีสิทธิยึดโฉนดที่ดินดังกล่าวได้

เงื่อนไขการติดค้ำประกันโฉนดที่ดินเข้าทำงานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แต่โดยทั่วไปแล้ว จะต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • ผู้สมัครงานจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
  • ผู้สมัครงานจะต้องมีโฉนดที่ดินที่ปลอดภาระจำนอง
  • โฉนดที่ดินจะต้องมีมูลค่าเพียงพอที่จะเป็นหลักประกันการทำงาน
  • ผู้สมัครงานจะต้องเซ็นสัญญาค้ำประกันกับนายจ้าง

เมื่อผู้สมัครงานผ่านการคัดเลือกให้เข้าทำงานแล้ว นายจ้างจะตรวจสอบเงื่อนไขต่างๆ ในการติดค้ำประกันโฉนดที่ดิน หากผู้สมัครงานมีคุณสมบัติครบถ้วน นายจ้างจะดำเนินการจดทะเบียนค้ำประกันกับกรมที่ดิน

ในระหว่างที่ผู้สมัครงานทำงานอยู่ หากฝ่าฝืนเงื่อนไขการทำงาน เช่น ลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ กระทำความผิด เป็นต้น นายจ้างมีสิทธิยึดโฉนดที่ดินดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม การยึดโฉนดที่ดินนั้น นายจ้างจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติยึดโฉนดที่ดิน หากศาลอนุมัติ นายจ้างจึงจะสามารถยึดโฉนดที่ดินได้

ผู้สมัครงานควรศึกษาเงื่อนไขการติดค้ำประกันโฉนดที่ดินเข้าทำงานอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ หากมีข้อสงสัยควรปรึกษากับทนายความเพื่อขอคำแนะนำ

ข้อควรระวังในการติดค้ำประกันโฉนดที่ดินเข้าทำงาน

  • การติดค้ำประกันโฉนดที่ดินเข้าทำงานอาจทำให้ผู้สมัครงานสูญเสียทรัพย์สินหากฝ่าฝืนเงื่อนไขการทำงาน
  • ผู้สมัครงานควรศึกษาเงื่อนไขการติดค้ำประกันโฉนดที่ดินเข้าทำงานอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
  • หากมีข้อสงสัยควรปรึกษากับทนายความเพื่อขอคำแนะนำ
Share on: