การโดนภาษีย้อนหลัง และถูกปรับ 60 เท่า นั้นเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ซึ่งเกิดขึ้นกับบุคคลที่มีรายได้และมีภาระภาษีที่ต้องชำระ แต่ไม่ได้ยื่นภาษีให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้บุคคลธรรมดามีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่มีหน้าที่เสียภาษีแต่ไม่ยื่นภาษีให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง กรมสรรพากรมีอำนาจเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ไม่เกิน 5 ปี
นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังมีอำนาจเรียกเก็บเบี้ยปรับเพิ่มเติมจากภาษีที่ต้องชำระ อัตราเบี้ยปรับเพิ่มเติมสำหรับภาษีที่ชำระล่าช้าเกิน 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน เป็นร้อยละ 1.5 ต่อเดือน เบี้ยปรับเพิ่มเติมสำหรับภาษีที่ชำระล่าช้าเกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน เป็นร้อยละ 3 ต่อเดือน และเบี้ยปรับเพิ่มเติมสำหรับภาษีที่ชำระล่าช้าเกิน 6 เดือน เป็นร้อยละ 5 ต่อเดือน
ในกรณีที่ผู้เสียภาษีถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและเบี้ยปรับเพิ่มเติม กฎหมายกำหนดให้กรมสรรพากรต้องออกหนังสือแจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบก่อน โดยให้โอกาสผู้เสียภาษีได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
หากผู้เสียภาษีชี้แจงข้อเท็จจริงและหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้อย่างน่าเชื่อถือ กรมสรรพากรอาจพิจารณาลดเบี้ยปรับเพิ่มเติมให้ได้ตามสมควร
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้เสียภาษีไม่ยื่นภาษีให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง และถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและเบี้ยปรับเพิ่มเติมแล้ว จะต้องปฏิบัติตามหนังสือแจ้งของกรมสรรพากรอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกกรมสรรพากรดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
หากถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและเบี้ยปรับเพิ่มเติม แนะนำให้ปรึกษาสำนักงานบัญชีหรือทนายความเพื่อขอคำปรึกษาและดำเนินการต่อไป