การโอนที่ดินมรดกของแม่ที่เสียชีวิต สามารถทำได้โดยดำเนินการดังนี้
- ตรวจสอบสิทธิในการรับมรดก ทายาทจะต้องตรวจสอบสิทธิในการรับมรดกของตนก่อน โดยสามารถตรวจสอบได้จากพินัยกรรมของแม่หรือกฎหมายว่าด้วยมรดก หากทายาทมีสิทธิในการรับมรดก ก็จะต้องดำเนินการโอนที่ดินต่อไป
- รวบรวมเอกสาร ทายาทจะต้องรวบรวมเอกสารที่จำเป็นในการโอนที่ดิน ได้แก่
- โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น ใบมรณบัตร
- พินัยกรรม (ถ้ามี)
- ยื่นคำขอจดทะเบียนโอนมรดก ทายาทจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนโอนมรดกต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาที่ที่ดินตั้งอยู่ โดยสามารถยื่นคำขอด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นแทนได้
- ชำระค่าธรรมเนียมและภาษี ทายาทจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนมรดก และอาจต้องชำระภาษีมรดกเพิ่มเติมหากมูลค่ามรดกเกิน 100 ล้านบาท
- รับโฉนดที่ดินใหม่ หลังจากดำเนินการจดทะเบียนโอนมรดกแล้ว ทายาทจะได้รับโฉนดที่ดินใหม่จากสำนักงานที่ดิน
ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนมรดก
- ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนมรดก ร้อยละ 2 ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ในกรณีโอนมรดกระหว่างผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน หรือระหว่างคู่สมรส เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ร้อยละ ๐.๕
- ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนผู้จัดการมรดก แปลงละ 50 บาท
- ค่าประกาศมรดก แปลงละ 10 บาท
ภาษีมรดก
ทายาทจะต้องชำระภาษีมรดกเพิ่มเติมหากมูลค่ามรดกเกิน 100 ล้านบาท โดยอัตราภาษีมรดกมีดังนี้
- ทายาทบุพการี คู่สมรส และบุตร เสียภาษีมรดกในอัตราคงที่ 5%
- ทายาทพี่น้อง ลุง ป้า น้า อา เสียภาษีมรดกในอัตราคงที่ 10%
นอกจากนี้ ทายาทยังสามารถดำเนินการอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อปกป้องสิทธิของตน เช่น
- ตรวจสอบโฉนดที่ดินว่าไม่มีภาระผูกพันใด ๆ
- ตรวจสอบเอกสารการโอนมรดกให้ถูกต้อง
- ชำระค่าธรรมเนียมและภาษีให้ครบถ้วน
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ทายาทสามารถปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำ